
โผล่อีก ! ผู้ค้าแฉ Big Mountain ระบบสุดแย่ เจ๊งยับขาดทุน 3 แสน ต้องมานั่งหาเงินใช้หนี้
ผู้ค้าอีกรายโผล่แฉคอนเสิร์ต Big Mountain ทีมงานระบบสุดห่วย ห้ามรถน้ำเข้าจนขายของไม่ได้ แถมการันตรี 3,000 เสิร์ฟ ท้ายที่สุดเจ๊งยับขาดทุน 3 แสน ต้องมานั่งหาเงินจ่ายหนี้
เรียกว่ากำลังเป็นประเด็นร้อน จากกรณีที่มีผู้ค้าออกมาโวย เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุดแห่งปี บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิก เฟสติวัล 2022 (Big Mountain Music Festival 2022) #BMMF12 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 เดือนธันวาคม 2565 ว่าผู้จัดการันตีให้เตรียมเป็นพันเสิร์ฟ สุดท้ายเจ็งไม่เป็นท่า จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเวลานี้
ล่าสุดวันที่ 14 ธันวาคม 2565 มีผู้ค้าอีกคนที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ เตือนคนอื่นๆ ให้ตัดสินใจให้ดีก่อนเข้าร่วมเป็นร้านค้างานบิ๊กเม้าท์เท่น โดยบอกว่า จุดเริ่มต้นมาจากการตัดสินใจส่งร้านค้าเข้าไปคัดเลือก เพราะว่าชอบไปงานเทศกาลดนตรีอยู่แล้ว เลยคิดว่าน่าจะลองส่งเข้าไปดู ได้ก็ดี เป็นการต่อยอดธุรกิจรวมทั้งโปรโมตร้านไปในตัว คาดหวังกำไรนิดหน่อย ขอแค่ไม่ขาดทุนก็พอใจแล้ว พอถึงวันประกาศผล ทางทีมงานโทร. มาแจ้งว่าได้รับคัดเลือก
ค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าพื้นที่ขายสินค้า
โดยจะมีค่าใช้จ่าย 50,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าร้าน 2 วัน ค่ามัดจำอุปกรณ์อีก 5,000 บาท เท่ากับต้องจ่าย 55,000 บาท หากไม่มีการเช่าโต๊ะ เก้าอี้ หรือซื้อไฟในบูทงานเพิ่ม ตกใจกับราคาค่าเช่า 2 วันมาก
แต่มาคำนวณแล้ว หากตัดใจคิดซะว่าเป็นค่าการตลาด จบงานแล้วกำไรนิดหน่อย หลักพันหลักหมื่น หรือแม้แต่เท่าทุนทางร้านก็พอใจแล้ว ถือว่าไปหาประสบการณ์ออกงานใหญ่ที่สุดในประเทศ
ทีมงานการันตีเสิร์ฟ
ตนเองได้รับบรีฟจากทางทีมงานว่ามีคนเข้าร่วมงาน ราวๆ 100,000 คน มีร้านอาหารทั้งหมด 120 ร้าน เฉลี่ยแต่ละร้านแล้วจะได้ราว 3,000 เสิร์ฟต่อวัน ย้ำว่ามีคำว่าการันตี 3,000 เสิร์ฟต่อวัน ไม่ใช่ร้านค้าคิดกันเอาเอง (วันละ 3 มื้อ ไม่รวมวัน Set up งาน วันที่ 9 ที่อนุญาตให้เริ่มขายได้เลย เพราะเหตุว่ามีสตาฟเข้าไปหน้างานราว 10,000 คน)
พอจบประชุมร้านค้า ก็ให้แผนผังร้านค้ามา ซึ่งก็ตรงกับที่บรีฟตอนแรกว่าใกล้กับ Mountain stage รวมทั้ง Contact ของ Suppliers ต่างๆ ทำให้มั่นใจอีกว่างานดี จบจากการประชุม มีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจากคนร่วมงาน 90,000+ เป็น 110,000+ ไม่รวมทีมงาน, ศิลปิน, บัตรสปอนเซอร์ต่างๆ
ทำให้ทางร้านต้องเตรียมพร้อมยิ่งกว่าเดิม จากที่หวังไว้แค่ร้านค้าเราขอเอาที่ 1,500 เสิร์ฟต่อวันก็พอใจแล้ว เลยเพิ่มเป็น 2,500 เสิร์ฟต่อวันแทน จะต้องรีบไล่สั่งของ ซื้อของ เตรียมของไปออกงานให้พร้อมที่สุด ไม่อยากให้งานเสีย ไม่อยากให้เค้าว่าได้ว่าเราไม่พร้อม เพราะเหตุว่าเค้าย้ำแล้วย้ำอีกว่าทำได้แน่ใช่มั้ย มีทีมงานทำ 3,000 เสิร์ฟต่อวันได้หรือเปล่า
ตนคิดว่าเตรียมเกินไปดีที่สุด ดีกว่าไปขาดหน้างาน จากที่เตรียมจ้างรถกระบะขนของไปงานไว้คันเดียว ก็ต้องเพิ่มเป็น 2 คัน ด้วยเหตุว่าไม่สามารถที่จะหารถ 6 ล้อ ได้ทันในเวลากระชั้นชิด สรุปงาน 2 วันลงทุนไป 300,000++ คิดว่าถ้ามีของเหลือกลับมาบ้างก็เก็บไว้ขายต่อได้ แต่ถึงเวลาขนของกลับจริงมันเยอะกว่าที่คิดไว้หลายเท่าตัว จนจะต้องไปเช่าห้องเย็นเพื่อฝากแช่ของไว้ต่อ
แผนผังร้านค้า Big Mountain ถูกเปลี่ยนกะทันหัน
พอใกล้วันงานมีการส่งผังร้านค้ามาใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ เข้าไปด้านในลึกเข้าไปใกล้เวทีใหญ่ ให้เหตุผลว่าก่อนหน้านั้นมีฝนตกหนัก ทำให้บางพื้นที่เสียหายใช้ไม่ได้ เลยต้องปรับเปลี่ยน ตรงนี้เข้าใจแล้วก็มองว่าเหตุผลพอฟังได้ แต่ว่าคิดอีกทีก็เอ๊ะว่าแทนที่จะเลื่อนเข้าไปด้านใน เพราะเหตุไรไม่เลื่อนออกมาด้านนอก เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย เจอร้านค้าได้เร็วขึ้น แต่ว่าในช่วงเวลานี้เข้าใจแล้วค่ะว่าเพราะเหตุไรทำแบบนั้นไม่ได้ ก็เพราะว่ามันจะไปแย่งลูกค้าของสปอนเซอร์
ความวุ่นวายในวันงาน
พอถึงวัน set up งาน (วันที่ 9) ทางร้านค้าสั่งน้ำดื่มประกอบอาหารไป 15 ถัง กะว่าจะได้เริ่มขายคนภายในพื้นที่งานก่อน สรุปตามน้ำถึงเที่ยงคืน น้ำไม่มาส่ง ต้นเหตุมาจากรถขนส่งของทางโรงงานน้ำดื่มเข้าพื้นที่ไม่ได้ การ์ดไม่ให้เข้า ทำให้หลายๆ ร้านค้าไม่ได้รับของตามที่สั่งไว้ พอถึงวันงาน จากตอนแรกที่ประชุมร้านค้า แจ้งว่าให้นำรถเข้าโหลดของในพื้นที่ได้ช่วง 06.00-08.00 พอถึงเวลาจริงแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้าพื้นที่แล้ว จะขนของต้องใช้รถเข็นหรือแบกเข้างานเอง
ซึ่งพื้นที่งานเป็นหลุม แอ่งน้ำ ไม่ได้เอื้ออำนวยกับการใช้รถเข็นเลย และไม่อนุญาตให้รถน้ำดื่มกับรถน้ำแข็งเข้าพื้นที่ด้วย น้ำดื่ม 20 ลิตร 1,000 ถัง ทางผู้จัดให้โรงงานน้ำดื่มนำใส่รถเข็นส่งร้านค้าที่อยู่ห่างกันมาก ถึงมากที่สุด รถเข็นใส่ได้รอบละ 10 ถัง เท่ากับจะต้องเข็นรถอย่างน้อย 100 รอบ ไม่นับว่าบางร้านค้าสั่งใส่เติมภาชนะที่นำมาเพิ่มด้วย สรุปคืนวันนั้นรถเข็นโรงงานน้ำดื่มยางแตก งานวันที่ 2 ไม่มีน้ำส่งให้ร้านค้า
ปัญหาร้านเล้งก่อนหน้านี้
บางคนที่ไม่เข้าใจ ต่อว่าร้านเล้งว่าอาหารไม่เหมาะสมกับงาน ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งร้านเล้งก็มีการปรับเปลี่ยนรายการอาหาร เป็นข้าวกะเพรา ไม่ได้มีแต่ต้มเล้งอย่างเดียว แต่ปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่การจัดการปัญหาหลังบ้านมากกว่า วัตถุดิบหลักของร้านเล้งคือการใช้น้ำต้มของ น้ำมาส่งไม่ได้ จนต้องขอซื้อน้ำจากร้านค้าอื่นในงาน
ปัญหาอื่นๆ มากมาย
จุดซักล้างน้ำไหลบ้าง ไม่ไหลบ้าง ขยะในงานแจ้งว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บ สรุปจนวันสุดท้ายที่เก็บของกลับถุงขยะยังกองอยู่ข้างหลังร้านไม่มีคนมาเก็บไปเลย ไฟดับๆ ติดๆ แถมมีน้ำห้องน้ำไหลมาบ้าง สรุปพอจบงาน หลายๆ ท่านก็พูดคุยกันในไลน์กลุ่ม อาจจะมีใส่อารมณ์ใส่ผู้จัดบ้าง แต่ว่าก็เข้าใจว่าด้วยประสบการณ์แย่ๆ อย่างงี้ เหนื่อยใจเรื่องการจัดการไม่พอ ยังจะต้องเหนื่อยกายแล้วขาดทุนยับเยินอีก มันก็คงจะมีอารมณ์เป็นธรรมดาถึงถามหาความรับผิดชอบจากทีมงาน ด้วยเหตุว่าตอนบรีฟแจ้งย้ำแล้วย้ำอีกว่าการันตีวันละ 3,000 เสิร์ฟ
ส่วนตัวคิดว่าจะรอพักเหนื่อยแล้วรอทีมงานชี้แจง สรุปเปิดมาอีกทีทีมงานไล่ลบทุกคนออกจากกลุ่มไลน์ร้านค้า โดยไม่มีการชี้แจงใดๆ ขณะนี้ต้องกลับสู่โลกความเป็นจริงหาเงินใช้หนี้